หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เอามาแนะนำ สำหรับใครที่ไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองแล้วได้มีโอกาสได้ไปที่เมืองเคียงจู แนะนำให้แวะเข้าไปที่วัดพุลกุกซา ที่เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอาณาจักรชิลลา ซึ่งเป็นยุคที่พระพุทธศาสนามีความรุ่งเรืองมาก และวัดนี้ก็มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
วัดพุลกุกซาสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 535 คำว่าพุลกุกซามีความหมายว่า "ดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา" ทางด้านหน้าของวัดจะเป็นสระน้ำแห่งปัญญา และมีสะพานหินทอดยาวข้ามมาสู่ประตูเทพพิทักษ์ที่มีอยู่ 4 ด้าน หากคุณจะเดินทางไปยังวัดพุลกุกซาใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเคียงจูเพื่อมายังวัดนี้เพียง 15-20 นาที เป็นวัดที่มีความสวยงามมากจนได้รับการจดบันทึกให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในปีค.ศ. 1950
ในบันทึกของทางวัดได้บอกไว้ว่า แต่เดิมวันนี้เป็นวัดเล็กๆที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 528 พอมาถึงสมัยของพระเจ้าเคียงด๊อกแห่งอาณาจักรชิลลาก็ได้มีการต่อเติมวัดในปีค.ศ. 751 และเสร็จในปีค.ศ. 774 ซึ่งเสร็จในยุคของสมัยพระเจ้าฮงเจและได้พระราชทานชื่อวัดว่า พุลกุกซา ซึ่งหมายถึง ดินแดนของศานาพุทธนั่นเอง
เรื่องที่ไม่อยากให้เกิดก็ได้เกิดขึ้น เมื่อญี่ปุ่นได้เผาวัดแห่งนี้จนเกิดความเสียหายอย่างหนักเหลือเพียงแต่สะพานบันไดและเจดีย์ที่ทำขึ้นมาจากอิฐจึงไม่เสียหายมากนัก และต่อมาวัดพุงกุกซาก็ได้ถูกบูรณะขึ้นอีกครั้ง จากความสวยงามของวัดที่มีอยู่แล้วบวกกับศิลปะเก่าแก่จากหินทำให้วัดนี้ได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลก
ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะเพิ่มความสวยงามทำให้วัดพุลกุกซามีความสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก
สะพานหินในวัดพุลกุกซาที่ไม่โโนเผาทำลายจากการลุกลานของญี่ปุ่น
หากได้มีโอกาสไปที่เมืองเคียงจูควรจะไปเยี่ยมชมวัดพุลกุกซาดูนะครับ เป็นวัดที่มีความสวยงามและเป็นสถานที่แห่งศาสนาพุทธของเราที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีตของเกาหลี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าลองไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองดูครับ
รวมสถานที่ท่องเที่ยวประเทศเกาหลีที่น่าไป
อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน
เกาะเชจู
โซลทาวเวอร์